'สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย' แหล่งเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์อันดับต้นๆ ของไทย ห้องเรียนขนาดใหญ่สำหรับหนูน้อยเยาวชน ด้วยพื้นที่สีเขียวกว่าสองพันไร่

สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย อยู่ห่างจากตัวเมืองตรัง 14 กิโลเมตร ก่อตั้งขึ้นตามดำริของนายชวน หลีภัย นายกรัฐมนตรีคนที่ 20 ของประเทศไทย เป็นหน่วยงานที่ขึ้นตรงกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 2,483 ไร่ โดยแบ่งเนื้อที่ออกเป็น ป่าดิบชื้น 80 เปอร์เซ็น ป่าพรุ 10 เปอร์เซ็น และพื้นที่นันทนาการ 10 เปอร์เซ็น สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายจัดเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์อันดับต้นๆ ของประเทศไทย เพราะมีความหลากหลายของพรรณพืชมากมายหลายชนิด เช่น ว่านแผ่นดินเย็นเมืองตรัง ซึ่งเป็นกล้วยไม้ดินชนิดใหม่ของโลก ยังมีพืชประจำถิ่นที่พบที่เดียวที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย เพียงที่เดียว คือ กระชายเมืองตรังหรือกระชายทุ่งค่าย เทียนทุ่งค่าย บากง และทุเรียนนก

สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อนหย่อนใจของนักท่องเที่ยวที่ชอบสัมผัสธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ จนได้ชื่อว่าเป็น “แหล่งฟอกปอดของเมืองตรัง” นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมพลาดไม่ได้เลยคือการเยี่ยมชมสะพานศึกษาธรรมชาติเรือนยอดไม้ ซึ่งเป็นสะพานศึกษาธรรมชาติเรือนยอดไม้แหล่งแรกของประเทศไทย สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายยังมีเส้นที่ศึกษาธรรมชาติระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยเส้นทางนี้นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าดิบชื้นและป่าพรุ

นอกเหนือจากสะพานศึกษาธรรมชาติเรือนยอดไม้แล้ว สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายยังมีจุดหน้าสนใจอีกมากมาย เช่น ต้นกระบากทอง ที่ได้ยกย่องให้เป็นรุกขมรดกของแผ่นดิน มีขนาดความโตประมาณ 5 คนโอบ อายุ 179 ปี , เถาวัลย์รูปหัวใจ , บอนกระดาษยักษ์ (ภาคใต้เรียก โหรา) ,ปาล์มหายากชนิดต่างๆ และยังมีพืชกินแมลงหลายชนิดให้ชม เช่น หม้อข้าวหม้อแกงลิง, จอกบ่วาย สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายยังมีสวนสมุนไพรให้ได้ศึกษาเรียนรู้ สำหรับผู้ที่หลงใหลในการปั่นจักรยานสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายมีเส้นทางจักรยานให้ปั่นภายในสวนฯระยะทาง 5 กิโลเมตร และเส้นทางรอบสวนฯ อีก 11 กิโลเมตร กิจกรรมอีกอย่างที่นักท่องเที่ยวนิยมเข้ามาสัมผัส คือการดูนกภายในสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย และทางสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายยังมีผลิตภัณฑ์สเปรย์กันยุง ซึ่งผลิตจากสมุนไพรภายในสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายเอง จำหน่ายสำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชม

ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เยาวชน ที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายมุ่งเน้นการปลูกฝังให้เยาวชนมีความหวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติก่อน โดยการบอกถึงคุณประโยชน์ของป่า หากพื้นที่ป่าลดลงจะมีผลเสียหรือเกิดผลกระทบอย่างไรบ้าง หลังจากเยาวชนเริ่มมีความรู้สึกหวงแหนแล้ว เขาก็จะเริ่มมีการอยากเรียนรู้เรื่องต่างๆ เกิดข้อสงสัย และเริ่มมีข้อซักถาม ทางสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายจะดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างให้กับเยาวชน เช่น การแนะนำให้เยาวชนรู้จักชนิดของป่า รู้จักชนิดพันธุ์ไม้ คุณลักษณะต่างๆ ประโยชน์ที่ได้รับ ความสัมพันธ์ของสัตว์ และแมลง ที่มีอิทธิในการขยายพันธุ์ของพืชชนิดต่างๆ ที่สำคัญที่สุดคือเยาวชนได้สัมผัสต้นไม้ชนิดต่างๆ จริงๆ ได้เดินป่าศึกษาธรรมชาติจริงๆ ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่ายจะใช้วิธีลักษณะการถ่ายทอดแบบ “พี่เล่าเรื่องให้น้องฟัง”