ข่าวประชาสัมพันธ์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช - 26 ก.พ.2566

"ผามออีแดง" ประตููสู่ปราสาทเขาพระวิหาร ถื่นดอกลำดวน จ.ศรีสะเกษ

                 วันนี้มีโอกาสได้มาเยือนถิ่นดอกลำดวน มีคำถามใช่ไหมละว่าคือที่ไหน ถื่นดอกลำดวน คือจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย แล้วที่นี่มีอะไรให้ค้นหา คำถามนี้มีคำตอบ มากมายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ผลไม้ยิ่งทุเรียนภูเขาไฟนี่ดังทั้งประเทศเลย รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ อยากรู้ไหมครับวันนี้ผมจะพาไปไหน ตามมากันเลย...

                 เกือบ ๒ ชั่วโมง จากตัวเมืองศรีสะเกษ บนทางหลวงหมายเลข ๒๒๑ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร เขียนเด่นสง่าอยู่ด้านหน้า ใช่ครับวันนี้ผมจะพาเที่ยวที่นี่ แต่ไม่ใช่เขาพระวิหารนะครับ เนื่องจากเกิดข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา ทำให้ไม่สามารถเข้าชมเขาพระวิหารได้ อย่าเพิ่งทำหน้าสงสัยครับว่างั้นจะมาทำไม จริงๆ แล้วนอกจากปราสาทเขาพระวิหารแล้วยังมีจุดที่น่าสนใจอีกหลายจุดครับ "ผามออีแดง" ใช่ครับนี่คือจุดหมาย

                "ผามออีแดง"ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อำเภอกัทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นหน้าผากั้นพรมแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ยาวกว่า ๓๐๐ เมตร เมื่อมองจากมุมนี้จะเห็นฝั่งเขมรที่อยู่เบื้องล่างออกไปไกลสุดตาเห็น หน้าผาแห่งนี้จะเป็นลักษณะของลานหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ไม่ได้ราบเรียบมากนักแต่ก็เดินได้สะดวก ก้าวลงจากรถจะเห็นป้ายเขียนบนหินศิลาแลง "ยินดีต้อนรับสู่ผามออีแดง"

                ที่นี่ก็เหมือนอุทยานทั่วไปครับ หากอยากได้ข้อมูลแผ่นพับ แผนที่ เส้นทางภายใน ศูนย์บริการเลย ไม่ไกลจากลานจอด อากาศค่อนข้างร้อนเนื่องจากเป็นโซนหน้าผา มีต้นไม้ให้ร่มเงาน้อย ออกจากอาคารด้านหลังศูนย์บริการ หากใครขึ้นมาช่วงเช้าตรู่เพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้น ตรงนี้เลยครับ "ลานฮับตะวัน" คุณจะเห็นฟ้าเปลี่ยนแสง จากดาวสวยที่ลาลับไปพร้อมกับความมืด แสงทองจากอาทิตย์ดวงใหญ่ค่อยๆ ขยับขึ้นมาให้เห็น เรียกได้ว่าเป็นจุดที่หนุ่ม-สาว ได้แอบอิงพิงกายรับวันใหม่ที่สวยงามพร้อมกับความสุขกายสบายใจ หากมีโชคจะได้เห็นหมอกที่ล่องลอยปิดผืนป่าเบื้องล่างเป็นดั่งทะเลกว้างใหญ่ขาวโพลนสุดขอบฟ้า

                ทุกที่ย่อมมีที่มาที่ไปครับ ผามออีแดงก็เช่นกัน อยากรู้ไหมครับทำไหมชื่อนี้ เมื่อปี ๒๕๐๔ มีคุณครูท่านหนึ่งนามว่า แดง ย้ายมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาสอนในอำเภอขุขันธ์ วันหนึ่งได้พากลุ่มนักเรียนมาทัศนศึกษาที่นี่ รถได้พาคณะขับมาถึงทางขึ้นเขาพระวิหาร ด้วยความชันกับรถที่บรรทุกหนัก ทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ และได้ไหลถอยหลัง ด้วยความตกใจคุณครูแดงจึงโดดลงจากรถ และในที่สุดรถก็เสียหลักพลิกค่ำทับร่างของคุณครูจนเสียชีวิต จากนั้นก็มีข่าวความเฮี้ยนของครูแดง จนเจ้าหน้าที่ต้องนิมนต์พระมาทำบุญและเชิญวิญญาณให้สถิตอยู่ในหินขนาดใหญ่และถูกนำไปตั้งไว้ตรงหน้าผา จึงเรียกกันว่า "ผามออีแดง"

                ผามออีแดงมีจุดที่น่าสนใจและสวยงามหลายจุด ซึ่งแต่ละจุดมีเรื่องราวกล่าวขานต่างกันออกไป เคยเห็นภาพแกะสลักไหมครับ เราอาจจะเคยพบเห็นภาพแกะสลักมามากมาย แต่ที่นี่มีภาพนูนต่ำที่ถูกแกะสลักไว้บนหน้าผาสูงชัน อายุกว่า ๑,๕๐๐ ปี เป็นรูปบุรุษที่ขนาบข้างด้วยสตรี รวม ๓ องค์ ซึ่งมีข้อสัณนิษฐานจากเหล่านักวิชาการหลายท่าน บ้างก็ว่า เป็นรูปพระศิวะ พระอุมาและพระนารายณ์ บ้างก็ท้าวกุเวร หนึ่งในจตุมหาราช ซึ่งภาพเหล่านี้มีลักษณะใกล้เคียงกับรูปแกะสลักในเขาพระวิหาร แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ ภาพแกะสลักนี้มีอายุมากกว่าเขาพระวิหาร

               เนื่องจากภาพแกะสลักเหล่านี้อยู่ถูกสลักอยู่บนหน้าผา เส้นทางเข้าชมจึงค่อนข้างลำบากหน่อย แต่ปลอดภัยด้วยเจ้าหน้าที่ได้ทำเส้นทางและราวจับอย่างหนาแน่นบนทางเดินเข้าชม จากภาพสลักนูนต่ำ เดินต่อไปถึงเนินเสาธง ที่ธงชาติไทยโบกสบัดปลิวตามแรงลม จุดนี้จะมีกล้องส่องเห็นถึงเขาพระวิหารที่อยู่ไกลออกไป แต่เห้นแค่เพียงเหงาเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีศาลาที่มีพระพุทธรูปนาคปรกประดิษบานอยู่ภายใน รูปปั้นพระพรหมบริเวณลานกว้าง รวมถึงสถูปคู่ รูปทรงสี่เหลี่ยมทำจากหินทรายตัดตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของผา

               มาลองเยี่ยมชมธรรมชาติชายขอบประเทศ เมียงมองเพื่อนบ้าน เรียนรู้กับประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ที่นี่จะให้คุณพบกับอารมณ์ที่หลายหลาก มาเก็บความทรงจำใส่กระปุกกันครับ


ข่าวประชาสัมพันธ์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช - 26 ก.พ.2566
ข้อมูล: https://travel.trueid.net/